ระบบอีแวป หรือพัดลมไอเย็น เป็นที่นิยมมาหลาย 10 ปี เนื่องจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานกว่าระบบปรับอากาศหลายเท่า ลดอุณหภูมิได้ประมาณ 2-15 องศาเซลเซียสจากอากาศภายนอก ใช้งานได้ดีโดยเฉพาะพื้นที่โซนร้อน ส่วนมากใช้งานในพื้นที่เปิดโล่งอย่างเช่น ตลาดนัด สวน ร้านอาหาร โรงงานทั่วไป ฟาร์มไก่ เป็นต้น
ระบบอีแวปคืออะไร?
ระบบอีแวป หรือ EVAP ย่อมาจากEvaporative Cooling System เป็นระบบที่อาศัยการระเหยของไอน้ำในการลดอุณหภูมิของอากาศ โดยน้ำจะไหลผ่านเยื่อกระดาษในแนวตั้ง ลมพัดผ่านทางแนวนอน อากาศที่ไหลผ่านเยื่อกระดาษ (แผงรังผึ้ง) จะเกิดการแลกเปลี่ยนอุณหภูมิ (Heat Transfer)กัน ตามหลักการแลกเปลี่ยนพลังงานผ่านความร้อนแฝง (Latent Heat) เข้าใจง่ายๆก็คือ น้ำจะร้อนขึ้น ส่วนลมจะเย็นขึ้น ลมที่ผ่านแผงรังผึ้ง ฝุ่นละอองก็จะเกาะอยู่บนเยื่อกระดาษ ทำให้อากาศสะอาดมากขึ้นอีกด้วย
แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ เนื่องจากใช้การแลกเปลี่ยนความร้อนกับไอน้ำ ดังนั้นหากเป็นช่วงหน้าฝนอาจจะทำให้ไม่สามารถลดอุณหภูมิได้มากนัก รวมถึงควรมีการทำความสะอาดแผงรังผึ้งเป็นประจำทุกเดือน เพื่อความสะอาดและอายุการใช้งานที่ยาวนานเพิ่มมากขึ้น
รูปแบบการใช้งาน
ระบบอีแวปสามารถแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลักๆ ได้แก่
- ติดตั้งระบบอีแวปแบบทั้งอาคาร – เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการลดอุณหภูมิทั้งอาคาร อย่างเช่น โรงงานเย็บผ้าที่มีพนักงานปฏิบัติหน้าที่จำนวนมากพร้อมกันภายในอาคาร หรือโรงเรือนเพาะปลูกที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น
2. แบบลูกเต๋า แล้วต่อท่อส่งลมเข้าสู่อาคาร – สามารถเลือกหัวจ่ายเฉพาะตำแหน่งที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้
หรือออกแบบให้ใช้งานคู่กับพัดลมส่งก็ได้ โดยให้พัดลมไอเย็นลูกเต๋าปล่อยลมเย็นเข้าสู่อาคาร แล้วใช้พัดลมส่งลมผลักลมเย็นต่อให้กระจายทั่วทั้งอาคาร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรูปแบบอุตสาหกรรมค่ะ
สรุป
ข้อดีของระบบอีแวป
- ประหยัดพลังงานกว่าระบบปรับอากาศ
- ค่าใช้จ่ายถูกว่าระบบปรับอากาศทั้งค่าอุปกรณ์ ติดตั้ง และซ่อมบำรุง
- ไม่ใช้สารทำความเย็นที่เป็นอันตราย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- มีหลากหลายรูปแบบ ใข้งานได้ตามความต้องการและความเหมาะสม
ข้อจำกัดของระบบอีแวป
- ช่วงเวลาฝนตก หรือความชื้นสัมพันธ์สูงจะลดอุณหภูมิได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้เท่าเครื่องปรับอากาศ อุณหภูมิจะขึ้นอยู่กับอากาศภายนอก